พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมแถลงผลการระดมเข้าตรวจค้นจับกุมคลินิกเถื่อนและหมอกระเป๋า ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ระหว่างวันที่ 15-23 มีนาคมที่ผ่านมา รวม 6 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
พล.ต.ท.เพิ่มพูนกล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงามมีการขยายตัวแข่งขันให้รับบริการเสริมความงามด้วยวิธีการศัลยกรรม หรือฉีดสารเสริมความงามเพื่อให้ใบหน้าเนียนใส หรือแม้แต่เพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นอย่างแพร่หลาย จึงมีกลุ่มบุคคลบางพวกอาศัยเป็นช่องทางลักลอบให้บริการโดยผิดกฎหมายและขาดมาตรฐาน อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและชีวิตของผู้รับบริการ จึงร่วมบูรณาการหลายหน่วยงานเข้าจับกุมคลินิกเถื่อนและหมอกระเป๋ารวมทั้งหมด 6 เป้าหมาย
ด้าน พ.ต.อ.ชนันนัทธ์กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้จับกุมหมอกระเป๋าได้ 3 ราย คือ นางสาวสายฝน อายุ 31 ปี ถูกจับกุมได้ที่บางบัวทองจังหวัดนนทบุรี และนายนฏกร อายุ 27 ปี ที่ย่านห้วยขวาง พร้อมตรวจยึดของกลางเข็มฉีดยาและไซริงค์ใช้แล้ว และผลิตภัณฑ์ยา และจับกุมนางสาวจินตนา อายุ 35 ปี พร้อมยึดเครื่องมือทำเลเซอร์เทอมาจและอัลเทอร่า สำหรับยกกระชับหน้า นอกจากนี้เข้าตรวจสถานพยาบาลที่ไม่ได้อนุญาตในพื้นที่เขตคลองสามวา จตุจักร และหลักสี่ รวม 3 แห่ง พร้อมยึดของกลางเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์ยาต่างๆ
การจับกุมครั้งสืบเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่า ไปรับบริการเสริมความงามยกกระชับหน้ากับแพทย์คนหนึ่งที่ให้บริการที่บ้านพักย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และทำให้ใบหน้าเสียโฉม จึงเข้าร้องเรียนกับ ปคบ.ก่อนที่จะขยายผลและพบว่า มีบุคคลที่อ้างตัวเป็นแพทย์โฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก และเปิดกลุ่มชักชวนสมาชิกให้มาใช้บริการ ซึ่งหมอกระเป๋าที่ถูกจับกุมไม่มีความรู้ด้านแพทย์ เป็นเพียงผู้ที่ชื่นชอบรักความสวยงาม
เหยื่อผู้เสียหายได้รับผลกระทบจากการเสริมความงามส่วนใหญ่ จะเกิดจากการทำศัลยกรรมจมูก และเสริมหน้าอก จากการตรวจสอบของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พบว่า หมอกระเป๋าส่วนมากมักไปให้บริการที่บ้านหรือคอนโด ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์แพทย์ที่รักษาได้ทันที
ด้านอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวต่อว่า จากตรวจสอบพบว่ามีแพทย์จำนวนมากที่เข้าตรวจและให้บริการแก่ประชาชน โดยไม่รู้ว่าสถานพยาบาลที่รับดำเนินการนั้นยังไม่ได้รับอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้จึงขอเตือนแพทย์ที่จะเข้าไปให้บริการตรวจ รักษา ควรตรวจสอบวัน เวลา ที่รับอนุญาตให้ครบถ้วน โดยให้คำนึงถึงจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเป็นสำคัญ หากตรวจพบการกระทำที่ร้ายแรงอาจส่งผลต่อวิชาชีพ
ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นหมอกระเป๋าทั้งหมดไม่ได้เป็นแพทย์เสริมความงาม แต่เรียนรู้วิธีการเองซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ส่วนคลินิกเถื่อนที่มีแพทย์เข้ามาให้บริการจะได้รวบรวมหลักฐานให้แพทยสภาพิจารณาดำเนินการต่อไป
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.