เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
วันนี้ (24 มี.ค.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสร้างความร่วมมือด้านการประยุกต์ใช้ข้อมูลด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ณ ห้องสัมมนา ชั้น 3 กรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ GISTDA จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนา และดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยการนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้ในงานของกรมราชทัณฑ์ด้านการสำรวจและจัดทำแผนที่ด้านความมั่นคง และวางแผนจัดการการใช้ที่ดินบริเวณโดยรอบทัณฑสถานที่มีอยู่กว่า 143 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างสองหน่วยงาน และมุ่งสร้างเสริมขีดความสามารถในการพัฒนาบุคลากรและถ่ายทอดแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยการนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเข้ามาบูรณาการในการบริหารจัดการด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของกรมราชทัณฑ์
นอกจากนี้ GISTDA จะร่วมผลักดันพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานภายใต้ภารกิจของกรมราชทัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดทำแผนที่แสดงอาณาบริเวณเขตเรือนจำทั่วประเทศ ที่ผ่านการจัดทำในมาตราส่วนที่เหมาะสม และมีมาตรฐาน เพื่อให้หน่วยงานภายใต้สังกัดของกรมราชทัณฑ์สามารถนำไปวางแผน ควบคุม เฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายในบริเวณเรือนจำทั่วประเทศ ได้ทันการณ์ และมีประสิทธิภาพต่อไป ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว
ด้าน ดร.อายุตม์ สินธพพันธ์ุ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การลงนาม MOU ในครั้งนี้ มีกรอบความร่วมมือที่สำคัญ เพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เข้ามายกระดับการพัฒนาการใช้ทรัพยากรที่ดินที่กรมราชทัณฑ์ถือครองอยู่เป็นจำนวนมาก ให้สามารถกำหนดแนวทางการพัฒนาอย่างมีคุณค่า มีทิศทาง และเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการพัฒนาพื้นที่ การเฝ้าระวังการบุกรุกที่ดิน และการบริหารจัดการพื้นที่ของกรมราชทัณฑ์ รวมไปถึงประเด็นด้านความมั่นคงของเรือนจำ/ทัณฑสถาน โดยปีนี้กรมราชทัณฑ์ได้วางเป้าหมายที่จะดำเนินการจัดทำแผนที่โดยใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในเรือนจำของจังหวัดสงขลา ซึ่งความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น จะก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อทั้งสองหน่วยงานและของประเทศอย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นการลดการสูญเสียที่ดินภาครัฐ ซึ่งเป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่าของประเทศ