จากกรณีที่เจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกจากวัดเพื่อมาตามหาหญิงสาวที่จังหวัดสุพรรณบุรีเพราะเจ้าอาวาสได้ตกหลุมรักและทำการยักยอกเงินกฐินส่วนหนึ่งให้หญิงสาวนับแสนกว่าบาท
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 28 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดท้องคุ้ง ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทราบว่าเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว เข้ามาขอขมาการลาสิขา หรือขอสึกกับทางพระอธิการบุรินทร์พศ ฐานวโร เจ้าอาวาสวัดท้องคุ้ง ในเวลาประมาณ 11.00น. ที่บริเวณหอสวดมนต์ภายในวัด
ทางด้านนายคนึงกิจ พรหมนุชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจ.นนทบุรี. กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นในส่วนของของเจ้าอาวาสดังกล่าวได้ทำอาบัติปรชิก ได้เข้ามาขอโอวาสกับพระอาจารย์เข้ามาขอการยุติการเป็นพระสงฆ์ เพราะเขาขาดการทำปรชิกที่ 4 ซึ่งขาดจากการเป็นพระ ท่านเป็นเจ้าอาวาสจะต้องมีการตรวจทรัพย์สินต่างๆ ทางเจ้าคณะผู้ปกครอง เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ จะตรวจาอบและดำเนินคดีตามกฏหมายในสิ่งที่เสียหายไป
พระอธิการบุรินทร์พศ ฐานวโร กล่าวว่า ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัด ที่เชียงใหม่ ท่านได้รู้จักตนผ่านญาติโยมที่มาจากเชียงใหม่ ซึ่งตนทราบว่า ก่อนที่ท่านจะมานนทบุรีท่านกำลังจะเดินทางไปที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่เมื่อคืนท่านขอเข้ามาพักที่วัดตนจึงให้เข้าพัก เพราะท่านบอกว่าจะไปงานบวชเพื่อนที่สุพรรณบุรี แต่ตนมารู้ทีหลังว่าท่านมุสาจะไปตามหาผู้หญิง ตนมารู้ตอนเวลาประมาณ3 ทุ่มเพราะเห็นข่าวจึงโทรไปหา
ซึ่งท่านอ้างว่ามาหาเพื่อนที่เป็นฆราวาสที่นนทบุรี ซึ่งวัดนี้ไม่มีใครรู้จักท่าน แต่ท่านเคยมาหาตนประมาณ 3 ครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เห็นมีพิรุธว่ามุสาในเรื่องดังกล่าว ตนจึงแนะนำให้ไปสึก และยื่นใบสุทธิ แต่เขาก็โทรมาหาตนให้สึกให้เนื่องจากวัดที่เชียงใหม่ให้มาสึกที่วัดของตน หลังจากที่มาที่มาเมื่อคืนตนไม่มองว่าท่านเป็นพระแล้ว เพราะถือว่าปรชิก เป็นพระจะขโขมยเงินก็ถือว่าผิดแล้ว ซึ่งทุกคนไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น การโอนเงินท่านใช้วิธีโอนเงินเข้าร้านทองและผู้หญิงก็มารับไป ท่านไม่เคยเห็นหน้าผู้หญิงมาก่อน ไม่มีการสไลค์หนอนตามที่ข่าวออกไป แต่ท่านยอมรับว่ายักยอกเงินวัดมาจริง ประมาณ 1แสนกว่าบาท แต่ท่านมีการอ้างว่าทางกรรมการวัดเอาเงินไป 8 หมื่นบาท ส่วนท่านเอามาแค่ 2 หมื่นบาท แต่จาการตรวจสอบแล้วทางกรรมการวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงิน ในส่วนเรื่องของสงฆ์จะต้องชดใช้เงินคืนทั้งหมดตามกฏหมาย