นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดให้บริการยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งดำเนินการโดยส่วนกลาง และได้พัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และช่วยให้ภาคธุรกิจใช้งานระบบได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น อาทิ
- เพิ่มช่องทางการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC)
- เพิ่มช่องทางให้ผู้แทนสามารถจัดทำ และยื่นคำขอจดทะเบียนแทนผู้ที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล (หุ้นส่วน/หุ้นส่วนผู้จัดการ ในกรณีคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน หรือ ผู้เริ่มก่อการ/กรรมการ ในกรณีคำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด) โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องมี Username & Password เพื่อเข้าระบบ และลงลายมือชื่อ รวมถึงกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเข้าใช้งานระบบมากยิ่งขึ้น เช่น กำหนดส่วนลดอัตราค่าธรรมเนียมแก่ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ที่จดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration 50% เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึง 31 ธันวาคม 2566
นายทศพล กล่าวว่า กรมฯ ได้ขยายการให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบ e-Registration โดยให้นายทะเบียนที่ประจำอยู่ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่นิติบุคคลมีที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่อยู่ในจังหวัดนั้น เป็นผู้พิจารณาและรับจดทะเบียน โดยระยะแรกได้นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, นนทบุรี, ชลบุรี, อุดรธานี และสุราษฎร์ธานี ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการจดทะเบียนนิติบุคคลทางออนไลน์ให้มีความรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม โดยหลังจากเปิดให้บริการนำร่อง 5 จังหวัดดังกล่าว กรมฯ ได้ประมวลผลและนำมาปรับปรุงระบบการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองภาคธุรกิจได้อย่างเต็มที่
สำหรับระยะที่ 2 นี้ กรมฯ ขยายการให้บริการพิจารณาคำขอจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) เพิ่มเติมอีก 20 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ปทุมธานี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร พะเยา ระยอง จันทบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี สกลนคร บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สงขลา และ ยะลา โดยจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป
“กรมฯ หวังว่า การขยายการให้บริการ และการปรับปรุงระบบ จะทำให้การยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration มีความคล่องตัวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นการสนับสนุนการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) ของรัฐบาล” อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าว
อย่างไรก็ดี หลังจากที่กรมฯ ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบ e-Registration โดยให้นายทะเบียนที่ประจำอยู่ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนั้นๆ เป็นผู้พิจารณาและรับจดทะเบียน 5 จังหวัดนำร่อง พบว่า ยอดการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลผ่านระบบ e-Registration เพิ่มขึ้นกว่า 45% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน (เดือนเมษายน – ตุลาคม ของปี 2564 และปี 2565) แสดงถึงความตระหนักรู้ และความพร้อมในการใช้บริการฯ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจ