คำว่า “พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส” เป็นคำที่ถูกยกมาใช้เสมอในยามที่ต้องเจออุปสรรคขวากหนามเข้ามาเป็นบททดสอบ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถสร้างความสำเร็จได้จากหนทางมืดบอด ต้องอาศัยพลังกายพลังใจมากแค่ไหนถึงจะฟันฝ่าไปได้ อย่างเมื่อช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย.2564 ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนตลอดริมแม่น้ำ ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ ยิ่งเรื่องธุรกิจริมน้ำถึงขั้นต้องหยุดกิจการชั่วคราว แต่วิกฤติครั้งนั้นกลับสร้างชื่อเสียงให้ร้านอาหารแห่งหนึ่งโด่งดัง ผู้คนหลั่งไหลไปจองคิวเพื่อลิ้มลอง “หมูกระทะโต้คลื่น” ปิ้งย่างไปแช่เท้าในน้ำที่ทะลักจากเจ้าพระยาเอ่อล้นขึ้นมาท่วมร้าน บรรยากาศสนุกสนาน ทำเอาสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเผยแพร่ข่าวไปทั่วโลก
“คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “บ้านท่าน้ำนนท์” ของ “คุณบอย–ธิติพร จุติมานนท์” นักข่าวสายบันเทิงแถวหน้า ร้านตั้งอยู่บ้านเลขที่ 370 หมู่ 5 ซอยพิบูลสงคราม 21 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เป็นบ้านไม้สูง 2 ชั้น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เกิดขึ้นด้วยความรักในวิถีชีวิตคนริมน้ำ ความรักถิ่นฐานบ้านเกิดของคุณบอยอย่างแท้จริง บรรยากาศหลักล้านอาจเป็นการตีมูลค่าที่น้อยเกินไป แท้จริงแล้วมันไม่อาจประเมินค่าได้ ความสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยายามพระอาทิตย์ตกดิน แสงสีถูกแต่งแต้มตามธรรมชาติ สาดส่องกระทบเกลียวคลื่นจากเรือที่สัญจรผ่านไปมา สร้างความสุขตาสุขใจอย่างยิ่ง นั่งปล่อยใจเพลินไปกับเสียงเพลงยุคคุณแม่ยังสาวดังแผ่วออกมาจากตัวบ้านไม้ฉาบด้วยแสงหลอดไฟห้อยเป็นระย้า ส่องตัวบ้านไม้ให้สวยงามขึ้นอย่างพอเหมาะพอดี ที่ท่าน้ำยามนี้แม้ไม่มีน้ำเอ่อล้นขึ้นมาเหมือนเช่นปีก่อน มีลูกค้าแวะเวียนมาดื่มด่ำความสุขกับบรรยากาศและอาหารไทยอย่างไม่ขาดสาย มี “ต้นมะเดื่อชุมพร” และ “ต้นกระทุ่มน้ำ” ยืนต้นตระหง่านแผ่กิ่งก้าน เสมือนคอยต้อนรับผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความอบอุ่น
หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ มีเมนูเรียกน้ำย่อยถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ทั้งม้าฮ่อ, เมี่ยงคำ, สาคูไส้หมู, ข้าวเกรียบปากหม้อ จัดวางอย่างน่ารับประทาน สาคูไส้หมูหอมกลิ่นถั่วลิสงคั่ว รสชาติหวานเค็มกลมกล่อม ทานคู่กับผักกาดหอม โรยกระเทียมเจียว ตามด้วยพริกขี้หนูสวนลูกโดด ช่วยเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี เมี่ยงคำที่จัดสำรับมาครบครันทั้งกุ้งแห้ง, มะนาว, หอมแดง, ขิง, ถั่วลิสง, พริกขี้หนูสวน, ใบชะพลู, มะพร้าวคั่ว และที่ขาดไม่ได้ คือน้ำราดเมี่ยงคำ อร่อยเด็ดหอมมะพร้าวคั่ว ทานพอให้น้ำย่อยทำงาน คุณบอยแนะนำให้ไปตักน้ำดื่มบริการตัวเอง มีน้ำชงให้เลือกทานทั้งน้ำผสมน้ำอุทัยทิพย์, น้ำเก๊กฮวย และน้ำกระเจี๊ยบ
ดื่มน้ำล้างปากเรียบร้อย ลองชิม “ขนมจีนแกงไก่” แม้จะดูเป็นเมนูธรรมดา แต่รับประกันว่าหาแกงไก่อร่อยๆแบบนี้ไม่ง่าย เพราะกลิ่นหอมของเครื่องแกงจากสมุนไพรไทยที่ใส่มาอย่างครบครัน ทั้งพริกชี้ฟ้า, มะเขือพวง, มะเขือเปราะ, ใบโหระพา บอกได้เลยว่าจานเดียวไม่พอต้องขอเบิ้ล จานต่อมา “กุ้งอบวุ้นเส้น” กุ้งไซส์ใหญ่ทำเอาหม้ออบวุ้นเส้นดูเล็กลงไปทันที วุ้นเส้นเหนียวนุ่มหอมกลิ่นพริกไทยกับรากผักชี หากอยากเพิ่มดีกรีความแซ่บมีน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดไว้เพิ่มความจัดจ้าน
มาถึงพระเอกของร้าน “หมูกระทะ” ที่จัดเต็มวัตถุดิบทุกชนิด ยกระดับเป็นหมูกระทะพรีเมียม คุ้มค่า คุ้มราคาบุฟเฟต์ เพราะหมูที่ใช้เป็นเนื้อหมูสด ซึ่งคุณบอยคัดสรรมาอย่างดี เช่น หมูสามชั้น ใช้เกรดกิโลกรัมละ 400 บาท คุณภาพของหมูสดไม่ผ่านการแช่แข็ง รสสัมผัสทำให้รับรู้ถึงความสดนุ่มอร่อย นอกจากนี้ ยังมีกุ้งแม่น้ำไซส์ขนาด 20 ตัว ต่อ 1 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 600 บาท หมึกสดเนื้อเด้งสู้ฟัน เคี้ยวแล้วรับรู้ถึงความสดใหม่ได้ทันทีที่ชิมคำแรก เนื้อวัวเอามาย่างลงบนกระทะ พลิกทีสองทีแล้วเอาเข้าปาก อยากบอกว่า ถูกใจสายเนื้อแน่นอน โดยเฉพาะน้ำจิ้มที่จัดมานั้นมี 2 แบบ 2 รส ทั้งแบบซีฟู้ดเปรี้ยวแซ่บและแบบหวาน
ตบท้ายด้วยเซตขนมไทย 9 ชนิด ทั้งลูกชุบ, ทองหยิบ, ทองหยอด,ฝอยทอง, ข้าวเหนียวมะม่วง ที่จัดมาในชั้นวางขนม เป็นจักสานทำจากไม้ไผ่ ใครเห็นตอนยกมาเสิร์ฟต้องร้องว้าว ด้วยความสวยงามอย่างไทย ส่วนรสชาติได้รับการคัดสรรอย่างสุดฝีมือ คุณบอยการันตีว่าเป็นของดีของอร่อยของคนเมืองนนท์เท่านั้น
หลังเข้าไปดูแลลูกค้านับ 10 โต๊ะ คุณบอยปลีกเวลามาคุยด้วย โดยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของบ้านท่าน้ำนนท์ว่า “จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 หลังจากเข้ามาซื้อบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาต่อจากญาติ ด้วยความผูกพันกับบ้านหลังนี้ตั้งแต่เล็กๆ จึงเนรมิตบ้านริมน้ำจากที่ทรุดโทรมให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้น ประกอบกับคุณย่ามีความสามารถในการทำอาหาร จึงเอา 2 อย่างมารวมกันไว้ที่นี่ เพื่อให้ร้านนี้เป็นความภาคภูมิใจของคนเมืองนนท์ โดยบอยตั้งใจให้ลูกค้ามาพักผ่อน สัมผัสวิถีความเป็นไทย ชิมอาหารไทยอร่อยๆ ให้ความรู้สึกเหมือนมากินข้าวบ้านเพื่อนที่อยู่ริมแม่น้ำจริงๆ เพราะทุกเมนูที่นำมาให้ลูกค้าชิม ล้วนเป็นอาหารที่ครอบครัวเราจัดไว้สำหรับแขกที่มาเที่ยวบ้านเป็นประจำ”
“การตกแต่งร้านที่พอดี ไม่มากเกินไป ให้คนมานั่งรู้สึกสบายผ่อนคลายอบอุ่น สามารถเข้ามาทานอาหารได้ทุกวัย เป็นความภูมิใจของพี่ทุกครั้งที่เสิร์ฟอาหารให้คนสามเจเนอเรชัน เห็นพ่อแม่พาลูก พาปู่ย่าตายายมานั่งกิน ทำให้รู้สึกดีใจแทนผู้สูงอายุที่มีลูกหลานมาดูแล เห็นแล้วมีความสุข ทุกเมนูบนโต๊ะคือฝีมือของย่าที่ฝากไว้ให้ลูกหลาน เวลาที่ลูกค้าบอกว่า เมนูนี้อร่อยเมนูนั้นอร่อย ทำให้คนทานมีความสุข พี่คิดว่าย่าจะได้รับบุญตรงนี้ที่ทำให้คนมีความสุข ช่วงวันเสาร์อาทิตย์เป็นช่วงที่พี่เข้ามาดูแลร้าน ทำหน้าที่แนะนำอาหาร ให้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับบ้านและแม่น้ำเจ้าพระยา พี่มักบอกลูกค้าเสมอว่า บ้าน, วิว และอาหาร คือส่วนประกอบ แต่แท้จริงแล้ว เราขายความสุข เพราะไม่ได้สุขแค่การกิน แต่คุณสุขตาและสุขใจ”
“เมื่อเปิดร้านอาหาร สิ่งที่ได้รับกลับมาคือพลังใจจากเสียงตอบรับของลูกค้า เสียงชื่นชมว่าอาหารอร่อยจังเลย ขอคุยกับแม่ครัวหน่อย หรือวันหลังจะกลับมาทานอีก สิ่งเหล่านี้สร้างความสุขให้กับคนทำร้านอาหาร เพราะถ้าเราจะขายแค่เอากระแสอย่างตอนหมูกระทะโต้คลื่น หรือเพียงชื่อเสียงของเราที่เป็นนักข่าวบันเทิง สิ่งเหล่านี้อาจไม่ช่วยให้ร้านยั่งยืน คุณภาพและความอร่อยของอาหารจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ร้านยืนหยัดได้อย่างมั่นคง วันนี้บ้านท่าน้ำนนท์กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 พี่บอกทุกคนในครอบครัวเสมอว่า การเปิดร้านอาหารเหมือนกับการทำอีเวนต์ มีปัญหาให้แก้ทุกวัน แต่สุดท้ายแล้วเราคำนึงถึงความสุขของลูกค้าเป็นสำคัญ” คุณบอยถ่ายทอดเรื่องราวแบบต่อเนื่องชนิดที่ผมไม่ต้องตั้งคำถามแทรกแต่อย่างใด
สนนราคาบุฟเฟต์รวมค่าบริการ มื้อเที่ยงคนละ 495 บาท และมื้อเย็นคนละ 715 บาท เด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบทานฟรี อายุ 6-12 ปี คิดครึ่งราคา ร้าน “บ้านท่าน้ำนนท์” วันจันทร์-ศุกร์ เปิดสองรอบ มื้อเที่ยงเวลา 11.00-15.00 น. และมื้อเย็น 16.00-21.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ให้บริการ 4 รอบ มื้อเที่ยง 10.30-12.30 น. และ 13.00-15.00 น. มื้อเย็น 15.30-18.00 น. และ 18.30-21.00 น. มื้อเที่ยงวันเสาร์-อาทิตย์มีก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าสุดท้ายในท่าน้ำนนท์ไว้บริการใครมาทานตอนเที่ยงห้ามพลาดผัดไทยรสละมุน และหมูสะเต๊ะเนื้อนุ่มนะครับ จองโต๊ะที่โทรศัพท์ 09-3112-4222 หรือ Line : @non2468 และ Facebook : บ้านท่าน้ำนนท์ CHAOPRAYA ANTIQUE CAFE.
คุณชายแป๊ะ