ตร.ตามแกะรอยวิสามัญฯ ไอ้เสือร้ายก่อเหตุปล้น
จี้ชิงทรัพย์เหยื่อโชกโชนหลายท้องที่ในเขตปทุมธานี-นนทบุรี ก่อนหนีมากบดานในห้องเช่ากับแฟนสาว
วันนี้( 9 พ.ย.)เมื่อเวลา16.00 น.
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ภูมิจิตร ผู้บัญชาการภาค1 พล.ต.ต.วสันต์เตชะอัครเกษมผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร ภาค1
และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ เข้าตรวจสอบเหตุวิสามัญ นายเฉลิมบัวอ่อน อายุ46 ปีอยู่บ้านเลขที่3/6
หมู่ที่8 ตำบลคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
หลังก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเหตุเกิดในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
จังหวัดปทุมธานี เมื่อกลางดึกวันที่28 ตุลาคม2564
บริเวณ ร้านสะดวกซักผ้า (แบบหยอดเหรียญ) ภายในซอยรังสิต-นครนายก16
ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ตามหมายจับของ
ศาลจังหวัดธัญบุรีที่673/2564 ลงวันที่2
พฤศจิกายน2564 ที่ผ่านมา
ในข้อกล่าวหาชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะ
โดยผู้เสียชีวิตยังมีอีกหลายคดีหลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค1
ไล่ล่าจนกระทั่งถูกวิสามัญดังกล่าว
โดยก่อนทำการวิสามัญ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค1
ร่วมกับตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ สืบทราบว่านายเฉลิมได้หลบมาเช่าห้องเช่าของป้าเชื่อม ที่จุดเกิดเหตุถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี
ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นห้องเช่าของป้าเชื่อม เปิดให้เช่าโดยผู้ตายได้มาเช่าอยู่ได้เพียง3-4
วัน ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค1 จึงได้นำกำลังปิดล้อมเพื่อทำการจับกุมตัวแต่ในเฉลิม
พยายามใช้อาวุธปืนแบบบีบีกันดัดแปลงเป็นแบ๊คกันบรรจุกระสุนแบบ.38 ยิงใส่เจ้าหน้าที่
2 นัดจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตอบโต้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องเช่า
โดยนายเฉลิมผู้ตายรายนี้ถือเป็นบุคคลอันตรายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์หญิงสาวมาแล้วหลายรายและมักจะพกอาวุธปืนติดตัวเป็นประจำ
โดยเมื่อวันที่28
ตุลาคม64 เวลา23.00 น
นายเฉลิม ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์นางสาวรุ่งภัสสรอินต๊ะชัย
อายุ28 ปี กับ นางสาวฟ้าเพ็งสมบูรณ์ อายุ28 ปี
ภายในร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ “ออโตริ” ซอยรังสิตนครนายก16
ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรีจังหวัด
ปทุมธานี ได้ทรัพย์สินและเงินสดไปกว่า10 รายการ ก่อนจะขี่จยย.แบบชาย
สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับหลบหนีออกไปทางปากซอยรังสิตนครนายก
จนกระทั่งตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค1
ทราบว่านายเฉลิมผู้ตายได้หลบมาเช่าห้องของป้าเชื่อมในจุดที่เกิดเหตุ
จึงประสานตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ เข้าปิดล้อมทำการจับกุมตัว แต่นายเฉลิมผู้ตายขัดขืนยิงต่อสู้จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญเสียชีวิตดังกล่าว
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ภูมิจิตร ผู้บัญชาการภาค1
กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค1 ได้สอบประวัติย้อนหลังผู้ต้องหามีการก่อเหตุชิงทรัพย์ไม่ต่ำกว่า
7 คดี เป็นคดีสะเทือนขวัญตำรวจจับกุมเมื่อปี52 ใช้อาวุธแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอออกจากคุกมาก่อเหตุซ้ำ
โดยนายเฉลิมได้มาอาศัยอยู่กับเพื่อนสาว ชอบโทรมหญิงพกมีดกับปืนตลอดเวลา จากการสืบทราบของตำรวจทราบว่า
คนร้ายได้ซ่อนตัวในห้องแล้วล็อคประตูไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้านนอกพยายามเรียกแต่ไม่ตอบ
ก่อนจะปืนเสียงปืนยิงออกมาจากในห้องพักจำนวน2 นัด
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยิงเพื่อป้องกันตัวจำนวน2 นัด
โดนคนร้ายบริเวณหน้าอกและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ