เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่สำนักงาน ป.ป.ช.สนามบินน้ำ นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวน และมีความเห็นกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง เดินทางจากประเทศไทยไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ต้องหาหรือนักโทษหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ ณ ประเทศสิงคโปร์ ถือว่าจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่สื่อมวลชนได้รายงานว่ามีแกนนำและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ราว 6-7 คนในพื้นที่อีสาน นำโดย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำภาคอีสาน, นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี และประธาน ส.ส.อีสาน และนางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ เดินทางจากประเทศไทยไปพบนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เดินทางมาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีที่ประเทศสิงคโปร์ ช่วงวันที่ 6-12 มี.ค.65 ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนเป็นอย่างมากถึงความเหมาะสมในการไปพบปะกันดังกล่าว
เนื่องจากนายทักษิณนั้นถูกศาลฎีกาฯพิพากษาสั่งจำคุกแล้วหลายคดี อาทิ คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว, คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4,000 ล้านบาทแก่รัฐบาลสหภาพพม่า, คดีให้บุคคลอื่น (นอมินี) ถือหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน โดยบริษัท ชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ และเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า และยังมีการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.อีก 2 เรื่องคือ กรณีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง จำนวน 8 สัญญา, กรณีกล่าวหาการอนุมัติสั่งซื้อเครื่องบินแบบ A 340-500 และ A340-600 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระหว่างปี 2545-2547 ทำให้การบินไทยมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงถือว่านายทักษิณเป็นผู้ต้องหาหรือนักโทษหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ จึงชอบที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องรีบนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมืองโดยเร็ว
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนด้านนิติบัญญัติ เดินทางไปพบปะหรือคบค้าสมาคมด้วยนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เนื่องจากเป็นการคบหาสมาคมกับ ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติ หรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ และก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่งได้
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิด ส.ส.ทั้งหมดที่เดินทางไปพบปะนายทักษิณดังกล่าวตามครรลองของกฎหมาย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่