นนทบุรีคึกคักคนร่วมไกล่เกลี่ยหนี้แน่น “สมศักดิ์” ช่วยเคลียร์หลังหนุ่มเป็นหนี้ กยศ.แค่ 3 แสนถูกฟ้องจนเกือบถูกยึดคอนโด แถมยังได้ลดเบี้ยปรับอีก 1 แสนบาท สาวได้ส่วนลดเกือบ 50% เหลือผ่อนแค่เดือนละ 400 บาท รมว.ยธ.ยันรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน ทุกกระทรวงกำลังเดินหน้า
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. เวลา 14.30 น. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี จังหวัดนนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 70 และยุติธรรมพบประชาชน จ.นนทบุรี โดยมี นายอภิชัย อร่ามศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางสาวพัชรศรี ศรีเมือง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นางเจริญ เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายจำลอง ขำสา รองนายกอบจ.นนทบุรี นายสุรสีห์ ศรีอินทร์สุทธ์ ประธานหอการค้าจังหวัดนนทบุรี นายไพฑูรย์ จารุสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายอภิชัย กล่าวว่า นนทบุรีเป็นจังหวัดเล็กอันดับ 3 ของประเทศ แต่ความหนาแน่นเป็นรองแค่ กทม. เรามีหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมกว่า 2,000 โครงการ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนมากขนาดนี้จะมีปัญหามากมายตามมา กิจกรรมวันนี้ที่กระทรวงยุติธรรมจัด เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับชาวนนทบุรี ทั้งการแก้ไขหนี้ ปรึกษาปัญหาทางด้านกฎหมาย ตนขอเป็นตัวแทนชาวนนทบุรีขอบคุณนายสมศักดิ์ รัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือประชาชนทุกกระทรวงจะดำเนินการเหมือนกระทรวงยุติธรรม แต่กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานนำร่องก่อน โดยความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีกำลังเร่งแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเร่งด่วนให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน โดย จ.นนทบุรี มีเป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ 17,479 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 3,431 ล้านบาท ซึ่งงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนที่ผ่านมา 69 ครั้งไกล่เกลี่ยสำเร็จ 54,907 ราย ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 4,918 ล้านบาท และเรายังมีศูนย์ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องทั่วประเทศ 956 แห่ง ผู้ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง 3,278 คน สำนักงานบังคับคดีช่วยไกล่เกลี่ยหลังฟ้อง 117 แห่งทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอีกด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อตนมาทำงานที่กระทรวงยุติธรรม ได้เสนอกฎหมายเข้าสู่สภาหลายฉบับ โดยกฎหมายสำคัญที่ทำสำเร็จไปแล้ว เช่น ประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่เราจะเน้นการยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่าย สืบสาวไปจนถึงต้นตอ และยึดทรัพย์ย้อนหลังตามมูลค่ายาเสพติดได้ถึง 10 ปี ตนมั่นใจว่าจะจัดการปัญหายาเสพติดได้อย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาหลังมีกฎหมายใหม่คนค้ายาลดลง 17% เพราะเขารู้ว่าหากยังขายจะถูกยึดทรัพย์หมด นอกจากนี้ เรายังมีรางวัลให้กับผู้แจ้งเบาะแส 5% ของมูลค่าทรัพย์ที่ยึดได้ หากเราช่วยกันแจ้งเบาะแสยาเสพติดจะค่อยๆหมดไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีกฎหมาย JSOC ที่ป้องกันการกระทำผิดซ้ำในเรื่องเพศและความรุนแรง ซึ่งจะสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมได้มากโดยเฉพาะผู้หญิง
จากนั้นนายสมศักดิ์ได้มอบป้าย และเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา 13 ราย เป็นเงิน 842,079 บาท มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ย 11 ศูนย์ และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง โดยรายแรกเป็นหญิงสาว มีหนี้ กยศ. หลังผ่อนมา 16 ปี โดยกู้มา 179,555 บาท ชำระไป 111,370 บาท แต่ส่งไม่ตามกำหนดมีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับทำให้ยังมียอดค้างอยู่ 68,185 บาท ผลการเจรจาได้รับส่วนลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ 32,039 บาท คงเหลือที่จะต้องชำระ 36,145 บาท โดย กยศ.ให้ผ่อนอีก 96 เดือน งวดละ 400 บาท รายต่อมา เป็นผู้ชาย มีหนี้ กยศ. หลังศาลสั่งฟ้อง โดยกู้เงินมา 244,096 บาท มีดอกเบี้ย 26,817 บาท เบี้ยปรับ 100,584 บาท รวม 371,497 บาท และถูกศาลสั่งยึดห้องชุด คอนโดสุขุมวิทที่ใช้ค้ำประกัน โดยผลการเจรจา ได้ลดเบี้ยปรับ 100% เหลือยอดปิดหนี้ 270,913 บาท และจะได้คอนโดคืน
โดยทางลูกหนี้ กล่าวว่า ต้องขอบคุณ รัฐบาล กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ ที่ประสานให้มางานในวันนี้ โดยจะส่งเงินกู้กยศ.ให้หมดโดยเร็ว หากมีมากก็จะส่งมาก เพื่อให้น้องๆ รุ่นหลังได้มีโอกาสกู้เงินไปเรียนกันได้ นอกจากนี้ ยังได้ลดภาระหนี้สินที่ติดค้างมานาน หากไม่มีโครงการก็ยังไม่รู้เลยว่าจะปลดหนี้และถอนการยึดทรัพย์ได้อย่างไร