04 ธ.ค. 2565 | 23:15:12
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว แซนดี้ กระเป๋าหลุยส์ กับพวกซึ่งมีอาชีพขายของแบรนด์แนมผ่านกลุ่มโอเพ่นแชท และได้หลอกกลุ่มผู้ซื้อได้สร้างความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายร่วมหลายล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่า เป็นคนพื้นเพและพักอาศัยอยู่บริเวณ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้มีการเริ่มฉ้อโกงทางออนไลน์ผ่านกลุ่มโอเพ่นแชท เดอะ แซนดี้ แบรนด์ 2
ต่อมาวันที่ 3 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 06.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หัวหน้าชุด PCT ที่ 5 และเจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัวผู้ต้องหา
1.น.ส.อรอุมา หรือ “แซนดี้ กระเป๋าหลุยส์” อายุ 29 ปี
2. นายภิญญาพัชร์ ธันยกานต์ อายุ 30 ปี
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ว่า ฉ้อโกงประชาชน ตามหมายจับของ“แซนดี้ กระเป๋าหลุยส์ จำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย
1. หมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.552/2565 ลงวันที่ 3 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” ท้องที่ สน.ธรรมศาลา
2. หมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ จ.545/2565 ลงวันที่ 17 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน ”ท้องที่ สภ.เมืองยะลา
3. หมายจับศาลแขงธนบุรี ที่ 360/2565 ลงวันที่ 28 พ.ย. 65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ”ท้องที่ สน.บุปผาราม
พบหมายจับของ นายภิญญาพัชร์ จำนวน 1 หมาย คือ
หมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ จ.545/2565 ลงวันที่ 17 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน ” ท้องที่ สภ.เมืองยะลา
จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ที่บริเวณ คอนโด เดอะโพลิแทน รีฟ ซ.นนทบุรี 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จังหวัดนทบุรี
กล่าวคือ ผู้เสียหายขอความช่วยเหลือทางเพจ “ สืบสวนนครบาล IDMB” ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.อรอุมา หรือแซนดี้ กระเป๋าหลุยส์ โดยใช้ชื่อกลุ่มไลน์โอเพ่นแชทว่า “เดอะแซนดี้แบรนด์” แอบอ้างขายกระเป๋าแบรนด์เนมนำเข้าจากต่างประเทศราคาถูก โดย แซนดี้ จะสรรหาวิธีการต่างๆเพื่อให้ตนเองมีความน่าเชื่อถือ ทั้งการโพสต์รูปภาพ การรีวิวกระเป๋า จนกระทั่งมีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก และตรวจสอบประวัติการกระทำผิดของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ปรากฎว่า น.ส.อรอุมาฯ เคยก่อคดีมากว่า 26 คดี ดังนี้
ปี 2564 จำนวน 1 คดี ดังนี้
คดีอาญาที่ 1072/2564 สภ.เมืองยะลา ในความผิดฐาน ออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ใช้เงินตามเช็คฯ
ปี 2565 จำนวน 25 คดี ดังนี้
คดีอาญาที่ 205/2565 ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.กุมภวาปี
คดีอาญาที่ 16/2565 ร่วมกันฉ้อโกง หน่วยงาน ป.อ.ท.
คดีอาญาที่ 218/2565 ร่วมกันฉ้อโกง สภ.หมวกเหล็ก
คดีอาญาที่ 455/2565 ฉ้อโกงตนโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น สน.อุดสุข
คดีอาญาที่ 481/2565 ฉ้อโกง,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สน.อุดมสุข
คดีอาญาที่ 1407/2565 ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.บางละมุง
คดีอาญาที่ 2929/2565 ฉ้อโกง,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.สำโรงเหนือ
คดีอาญาที่ 42/2565 ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หน่วยงาน ป.อ.ท
คดีอาญาที่ 1641/2565 ฉ้อโกงประชาชน สน.ประเวศ
คดีอาญาที่ 1962/2565 ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สน.หลักสอง
คดีอาญาที 713/2565 ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.เมืองยะลา
คดีอาญาที่ 534/2565 ฉ้อโกง,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สน.สำเหร่
คดีอาญาที่ 591/2565 ฉ้อโกง,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สน.ธรรมศาลา
คดีอาญาที่ 2125/2565 ฉ้อโกง สภ.เมืองภูเก็ต
คดีอาญาที่ 1148/2565 ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.เมืองขอนแก่น
คดีอาญาที่ 56/2565 ฉ้อโกงประชาชน,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.กันทรวิชัย
คดีอาญาที่ 654/2565 ฉ้อโกง,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.ดอนหัวฟ้อ
คดีอาญาที่ 1265/2565 ฉ้อโกงประชาชน,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช
คดีอาญาที่ 1417/2565 ฉ้อโกงประชาชน,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.วารินชำราบ
คดีอาญาที่ 164/2565 ฉ้อโกงประชาชน สน.บวรมงคล
คดีอาญาที่ 478/2565 ฉ้อโกงประชาชน,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.เมืองมหาสารคาม
คดีอาญาที่ 457/2565 ฉ้อโกง,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.โป่งน้ำร้อน
คดีอาญาที่ 707/2565 ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.วังสะพุง
คดีอาญาที่ 163/2565 ฉ้อโกง,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สน.พญาไท
คดีอาญาที 421/2565 ฉ้อโกง สน.บุปผาราม
ศาลได้ออกหมายจับไว้แล้วในคดีอาญาที่ 2929/2565 สภ.สำโรงเหนือ, คดีอาญาที่ 591/2565 สน.ธรรมศาลา และ คดีอาญาที่ 421/2565 สน.บุปผาราม
ส่วนนายนายภิญญาพัชร์ หรือ ธันยกานต์ (สาวประเภทสอง) เพื่อนร่วมห้องของ น.ส.อรอุมาฯ เคยก่อมา 1 คดี ดังนี้
คดีอาญาที 713/2565 ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สภ.เมืองยะลา
ศาลได้ออกหมายจับไว้แล้ว
จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหา พบหมายจับ 3 หมาย
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธทุกข้อหาทุกหมายจับ โดยให้การในชั้นจับกุมว่า “ตนขายกระเป๋าแบรนด์เนมมาเป็นเวลานาน 9 ปี แต่มามีปัญหาในช่วงโควิด การนำเข้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศมีความล่าช้า เป็นเหตุให้ผู้สั่งซื้อไม่พอใจ ต้องการเงินคืน แต่ตนขอหักค่ามัดจำ ซึ่งผู้สั่งซื้อไม่ยินยอม จึงถูกผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี” จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม เพื่อส่งศาลต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากคำให้การในชั้นจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบพยานข้อมูลผู้เสียหายและข้อมูลจากการสืบสวนนั้นขัดแย้งกัน คนร้ายรายนี้หลอกขายกระเป๋าแบรนด์โดยมีผู้เสียหายหลายราย มีความชำนาญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง ทั้งการโพสต์ภาพและรีวิวกระเป๋า อีกทั้งคดีส่วนใหญ่เกิดขึ้นในปี 64 – 65 ซึ่งเหตุการณ์โควิดผ่อนคลายแล้ว จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่ถูกหลอกแจ้งผ่านเพจ บก.สส.บช.น. หรือท้องที่แจ้งความเพื่ออายัดตัวดำเนินคดี ส่วนท่านใดเมื่อถูกชักชวนให้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านกลุ่มดังกล่าว ให้ตรวจสอบเพื่อยืนยันก่อนทุกครั้ง และขอฝากว่าหากพบเบาะแสอื่น สามารถแจ้งเข้ามาที่เพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มากแต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.
เครดิต ผู้พิทักษ์
Share this: