เทศบาลนครนนท์เตรียมแผนผลักดันมวลน้ำ ตั้งเครื่องสูบ 9 สถานี เตรียมกระสอบทราย 1 เเสนใบ ชี้หากระดับสูงเกิน 2.8 เมตร เข้าขั้นวิกฤต คาดน้ำเเห้งภายใน ต.ค.นี้
วันที่ 6 ต.ค. 2564 ที่ท่าน้ำนนท์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี เปิดเผยถึงเเผนการผลักดันน้ำออกสู่ทะเล ว่าตอนนี้เทศบาลนครนนท์ได้ตั้งศูนย์ป้องกันน้ำท่วมและจัดเตรียมกระสอบทราย เพื่อรับมือและเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำฝน รวมถึงน้ำเหนือที่ปล่อยมาจากเขื่อนเจ้าพระยาและน้ำทะเลหนุน ซึ่งคาดว่าในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะขึ้นสูงมากกว่าปกติ จึงขอให้ประชาชนที่อยู่หลังคันกั้นน้ำมีบ้านเรือนติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาให้เตรียมเก็บของยกขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ในส่วนของการระบายน้ำออกจากพื้นที่เทศบาลเมืองนนทบุรีนั้น เราได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักการช่าง เร่งตรวจสอบประตูระบายน้ำที่อยู่ในความดูแลทั้งหมด 15 ประตู ถ้ารวมถึงประตูน้ำที่อยู่ตรงคลองบางตลาดที่อยู่ในความดูแลของกรมชลประทานด้วย จะมีรวมกันทั้งหมด 16 ประตู ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ตลอดเวลา เพื่อคอยสูบน้ำออก และคอยดูความพร่องของน้ำทั้งด้านนอกและด้านในไม่ให้เกิน 1.5 เมตร หากฝนตกหนักต่อเนื่องอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ กรณีอย่างนี้ทางเทศบาลจะเร่งสูบน้ำออกให้เร็วที่สุด เนื่องจากไม่สามารถเปิดประตูระบายน้ำได้ เพราะระดับน้ำด้านนอกสูงกว่าด้านใน จึงอยากให้ชาวบ้านอดทน เพราะการจะสูบน้ำออกจะต้องใช้เวลา แต่ไม่นานระดับน้ำจะลดลง
“ในตอนนี้ได้ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนท์ สำนักการช่าง สำนักการสาธารณสุข สำนักการศึกษา กองสวัสดิการสังคม กองส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา ทุกส่วนงานจะลงมาช่วยกันหมด โดยแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบตามแต่ละพื้นที่ ซึ่งประชาชนไว้วางใจได้ หากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่เพิ่มสูงขึ้นและไม่มีพายุฝนเข้ามา ถ้าฝนตกต่อเนื่องหลายวันก็อาจจะส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ในส่วนของการเตรียมเครื่องมือในการรับมือและผลักดันน้ำ ทางเทศบาลนครนนท์จัดตั้งเครื่องสูบน้ำ ซึ่งตอนนี้มีสถานีสูบน้ำทั้ง 9 สถานี เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างรวดเร็ว และจัดเตรียมกระสอบทรายจำนวน 100,000 ใบ เพื่อนำไปกั้นไว้ยังจุดเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อป้องกันน้ำไหลเอ่อท่วมเข้าพื้นที่อาศัยของประชาชน ด้านฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีการเฝ้าระวังและรายงานความคืบหน้าของระดับน้ำให้ผู้บริหารทราบ ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วย“
นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี กล่าวเพิ่มเติมถึงเส้นทางน้ำจะไหลผ่านเข้าพื้นที่ จ.นนทบุรี และน้ำจะไหลผ่านไปในพื้นที่ใดบ้างว่า จากการคาดการณ์น้ำที่มาจากทาง จ.ชัยนาท และรวมกับน้ำที่ปล่อยผ่านมาจากประตูน้ำพระราม 6 ทำให้ปริมาณน้ำในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีปริมาณน้ำจำนวนมาก และได้วางคันกั้นน้ำถาวรทางเดินช่วงวัดตำหนักใต้ ไล่ลงมาถึงซอยนนทบุรี 17 ซึ่งมีพื้นที่ต่ำ จึงได้มีการเสริมแนวคันกั้นน้ำเพิ่มที่บริเวณถนน ถัดลงมาถึงสี่แยกพระนั่งเกล้าไปซอยศาลเจ้า และไปจนถึงถนนพิบูลสงครามก็ได้มีการวางคันกั้นน้ำไว้ โดยจะมีสถานีสูบน้ำประจำแต่ละที่ รวมทั้งหมด 16 สถานี ซึ่งถ้าหากระดับน้ำยังอยู่ที่ 2.4-2.5เมตร ก็ยังรับมือไหวอยู่ แต่หากระดับน้ำเพิ่มสูงไปถึง 2.8-3.0เมตร นั้นถือว่าเข้าสู่ระดับวิกฤตและอันตรายมาก ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าหลังเดือน ต.ค.จะสามารถผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ได้ ในส่วนของระดับน้ำในช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ตั้งแต่น้ำเริ่มท่วมประมาณวันที่ 15 ก.ย.เป็นต้นมาไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. เฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.10 เมตร ต่อมาในในวันที่ 4 ต.ค. ระดับน้ำสูงถึง2.40 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุด
ด้านนายอำนาจ สอนหมวก ผอ.สำนักกรมเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช รักษาการแทน ผอ.สำนักงานกรมเจ้าท่าภูมิภาคสาขานนทบุรี กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยทางน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนหรือผู้ประสบภัยทางอุทกภัย โดยมีกล้อง CCTV คอยตรวจอุบัติเหตุทางน้ำและคอยเฝ้าสังเกตการณ์ระดับน้ำ รวมไปถึงอุบัติเหตุจากการสัญจรของเรือด้วย และได้เตรียมเรือเพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำด้วยทั้งหมด 3 ลำ คือ เรือท้องแบน เรือตรวจการณ์ และเรือเจ็ตสกี พร้อมติดตั้งป้ายไวนิลไว้สำหรับแจ้งเตือนให้ระมัดระวังในการเดินเรือ ให้เดินเรือช้า ๆ เพื่อลดความเสียหายกับบ้านเรือนประชาชนที่จะเกิดคลื่นอีกด้วย
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำในปีนี้ต่างจากในปี 2554 ค่อนข้างมาก เพราะปี 2554 ปล่อยน้ำ 3,800ลบ.ม/วินาที ซึ่งในปีนี้แค่ 2,700 ลบ.ม/วินาที และในส่วนของเขื่อนกักเก็บน้ำจากที่ทราบข่าวจากกรมชลประทานอยู่ที่ร้อยละ 40 ซึ่งยังสามารถกักเก็บน้ำได้อีกเยอะ ในส่วนของพายุที่กำลังจะเข้ามาก็ต้องดูว่าฝนที่จะตกนั้น ตกบริเวณไหน ถ้าตกหลังเขื่อนก็จะสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ แต่ถ้าหากตกหน้าเขื่อนน้ำก็จะไหลลงมาสบทบกับน้ำในแม่น้ำเพิ่มปริมาณมากขึ้นอีก
ฝากประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำให้ติดตามและตรวจสอบสถานการณ์และคอยเฝ้าระวังถึงปรืมาณน้ำ รวมไปถึงติดตามพยากรณ์อากาศด้วย และคอยติดตามประกาศของกรมเจ้าท่า กรมอุตุฯ และกรมชลประทาน เพื่อเตรียมการและจะได้ยกของขึ้นที่สูงได้ทันท่วงที หรือมีเหตุด่วนเหตุร้ายสามารถแจ้งมาได้ที่เบอร์ 1199 สายด่วนของกรมเจ้าท่า เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ออกไปให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
ติดตาม ช่อง 8 ได้ทาง
facebook.com/thaich8