สนามข่าว 7 สี – ผู้เสียหาย ขับแกร็บคาร์ ร้องทุกข์กับทีมสนามข่าว 7 สี ว่าถูกชายฉกรรจ์มากันประมาณ 7 คน ยกพวกรุมทำร้ายขณะไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดนนทบุรี จนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว แต่เพราะเจ้าตัวเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นลูกน้องนักการเมืองคนหนึ่ง อยู่พื้นที่จังหวัดอุทัยธานี จึงกลัวว่าคดีจะเงียบหายไป
นี่เป็นคลิปภาพกล้องวงจรปิดที่ ชายอายุ 40 ปี ผู้เสียหาย มีอาชีพขับแกร็บคาร์ นำมาให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบ โดยในคลิปจะเห็นชายฉกรรจ์กลุ่มแรกมากัน 5 คน แต่ละคนสวมชุดสีดำ ทยอยเดินลงจากรถยนต์สีดำ โดยรถคันนี้มีการติดตั้งสัญญาณไซเรนไว้ด้านหน้ารถด้วย
ต่อจากนั้นก็มีชายอีก 2 คน สวมชุดสีดำเหมือนกัน ลงจากรถเก๋งที่จอดอยู่ด้านหลัง พากันเดินตามเข้าไปสมทบทำร้ายผู้เสียหาย เหตุการณ์เกิดเวลาเกือบ 01.00 น. ของวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าลานจอดรถของสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง บริเวณถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
สอบถามราวเรื่องที่เกิดขึ้นจาก ชายอายุ 40 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า คืนเกิดเหตุ ตนพร้อมด้วยเพื่อนซึ่งมีทั้งหญิงและชาย ทั้งหมด 6 คน พากันไปเที่ยวดื่มกินที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง โดยระหว่างที่นั่งดื่มกินและเต้นกันอย่างสนุกสนาน ได้ไปเจอกับกลุ่มคู่กรณีนับ 10 คน นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ โดยสังเกตเห็นที่ด้านหลังเสื้อที่ชายทุกคนในกลุ่มนี้สวม มีปักตัวอักษรภาษาไทย ระบุว่าทีมงาน “สจ.เปี๊ยก” ผู้กว้างขวางในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี
ผู้เสียหาย เล่าต่ออีกว่า ระหว่างที่นั่งดื่มกินอยู่โต๊ะข้างกัน จู่ ๆ ชายคนหนึ่งในกลุ่มดังกล่าว ได้ผลักเก้าอี้อย่างแรง จนเก้าอี้เอนมากระแทกหลังผู้เสียหาย จึงถามไปว่า “พี่มีอะไรกับผมหรือเปล่า” โดยชายที่เป็นคนผลักเก้าอี้ได้ตอบกลับว่า “ไม่มีอะไร” แต่ตอนนั้นไม่ได้มีเหตุอะไร ต่างคนต่างแยกย้ายไปนั่งดื่มที่โต๊ะใครโต๊ะมัน กระทั่งผ่านไปได้สักพัก ผู้เสียหายเดินออกไปที่ลานจอดรถแล้วยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างรถยนต์ของตน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับรถยนต์ สีดำ ที่ด้านหน้ารถเปิดสัญญาณไซเรน ขับมาจอด แล้วคนที่นั่งอยู่ในรถก็เปิดกระจกลง ตะโกนถามด้วยน้ำเสียงชวนหาเรื่องว่า “มึงตามกูมาทำไม” ตนจึงบอกว่า “ไม่ได้ตามครับ ออกมาสูบบุหรี่” แต่ฝ่ายชายฉกรรจ์ไม่ยอมจบ ถามต่ออีกว่า “มึงจะเอาอะไรกับกู มึงมีอะไรกับกูหรือเปล่า” ก่อนพากันลงรถปรี่มาหา สาวหมัดชกต่อย และกระทืบตามลำตัวแบบไม่ยั้ง จนน่วมไปทั้งตัว
ผู้เสียหาย บอกว่า พฤติการณ์ของกลุ่มชายฉกรรจ์ดูเหิมเกริม ไม่เกรงกลัวอะไร อวดเบ่งนิด ๆ เพราะหลังก่อเหตุแล้วก็พากันเดินขึ้นรถโดยเปิดสัญญาณไซเรนขับออกไป ซึ่งการเปิดสัญญาณไซเรน ไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถเปิดใช้ได้ตามอำเภอใจ ต้องได้รับอนุญาตก่อนถึงจะติดตั้งไซเรนและเปิดใช้งานได้ โดยหลังเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.ปากเกร็ด แต่กลัวว่าถ้าชายฉกรรจ์ทั้งหมดเป็นลูกน้องนักการเมืองในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีจริงตามที่สงสัย ก็กลัวว่าคดีจะเงียบหายไป จึงออกมาร้องทุกข์ หวังให้ตำรวจทำคดีนี้ให้เกิดความเป็นธรรม