นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อขออนุมัติการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 252,650,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 29.6 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ ล่าสุดสำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์แล้วในวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาการเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่เหมาะสม โดยบริษัทฯจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้พัฒนาโครงการและขยายธุรกิจ ชำระเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
“บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยเป็นบริษัทเรือธงของกลุ่มบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (ORI) ในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยมีโครงการครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด พร้อมทั้งวางเป้าหมายขยายทำเลพัฒนาโครงการออกสู่ต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น ภายใต้แผน 5 ปีที่จะขยายโครงการให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ อาทิ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เป็นต้น โดยเน้นจังหวัดที่มีอัตราเติบโตของประชากรสูงและมีการขยายโครงข่ายคมนาคมและพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านที่อยู่อาศัยและนำบริษัทฯ ก้าวเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาการอยู่อาศัยและยกระดับการใช้ชีวิต”
นางศุภลักษณ์ กล่าวว่า บริษัทฯได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้ 4 แบรนด์หลัก คือ “ไบรตัน” ในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัดจับกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน (First Jobber) “บริทาเนีย” จับกลุ่มลูกค้าที่เริ่มต้นสร้างครอบครัว พนักงานบริษัทและเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก “แกรนด์ บริทาเนีย” เป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับพรีเมียม จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานระดับผู้บริหาร เจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดใหญ่ และ “เบลกราเวีย” เป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่และคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ มีโครงการที่ปิดการขายแล้ว 2 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 2,028 ล้านบาท มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์ 13 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 17,550 ล้านบาท โครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 6 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 4,300 ล้านบาท และมีแผนพัฒนาโครงการในอนาคต
9 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 10,800 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2561 – 2563 มีอัตราเติบโตก้าวกระโดด โดยมีรายได้รวม 515.47 ล้านบาท 1,561.01 ล้านบาท และ 2,342.09 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 113.16% และมีกำไรสุทธิ 71.65 ล้านบาท 207.14 ล้านบาท และ 348.72 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง มีรายได้รวม 1,761.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 287.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน