จากประกาศการแจ้งเตือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ มท. (กปภก) 1610/วิ336 ให้จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร แจ้งการประเมิน และวิเคราะห์ปริมาณฝนตก ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)
คาดการณ์ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากแม่น้ำปิง จะทำให้มีน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มสูงสุดจากอัตรา 3,000-3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน ประมาณ 20-40 ซม. ในช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2564
ล่าสุดวันที่ 25 ตุลาคม ที่พื้นที่บริเวณอำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดด่านแรกในการรับมวลน้ำเข้าพื้นที่จุดแรกของจังหวัดนนทบุรี ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมเกือบ 40 ซม. บ้านเรือนประชาชนตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมากถูกน้ำท่วมสูง กระแสน้ำค่อนข้างแรง บางจุดน้ำได้ท่วมสูงกว่าคันกั้นน้ำต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากด้านในแนวเขื่อน เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่
ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ห่างจากฝั่ง บริเวณหมู่ 5 ต.เกาะเกร็ด ซึ่งถือว่ามีถนนสูงน้ำได้เข้าท่วมถนนที่ใช้สัญจรประมาณ 10-20 ซม. ขณะที่ภายในบ้านน้ำท่วมสูงเกินกว่า 1 เมตร บ้านบางหลังต้องใช้เรือพายเข้าไปภายในตัวบ้าน บางหลังไม่มีเรือต้องลุยน้ำและใช้กะละมังในการขนสิ่งของแทน
สำหรับพื้นที่ในหลายจุดของ จ.นนทบุรี ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและถูกมวลน้ำหลากของแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านเข้ามา กำลังประสบกับปัญหาอุทกภัย ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 30-100 ซม. อาทิ อ.ปากเกร็ด อ.เมืองนนทบุรี อ.บางกรวย อ.บางใหญ่ และ อ.บางบัวทอง ซึ่งได้รับผลกระทบจากมวลน้ำทางเหนือไหลหลาก กับมีน้ำทะเลหนุนด้วย รวมทั้งมีปริมาณน้ำฝนจากพายุหลายลูกที่พัดผ่านเข้ามา ทำให้มีปริมาณฝนตกกระหน่ำในหลายพื้นที่ของประเทศไทยด้วย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่